7 วิธีเลือกบ้านเช่าให้ตรงใจ

นนี้..พี่อุ้มขอนำเสนอเคล็ดลับเรื่องบ้านบ้าน
ตอน 7 วิธีเลือกบ้านเช่าให้ตรงใจ
:
สำหรับผู้ที่ต้องการเช่าบ้าน เช่าคอนโดเป็นการชั่วคราว
อาจจะด้วยเหตุผล เช่น ย้ายที่ทำงาน
ย้ายที่อยู่อาศัย ย้ายมาศึกษาต่อ
เช่าอยู่ระหว่างการรอบ้านที่ต้องการซื้อ/สร้างเสร็จ ฯลฯ
แต่ด้วยเวลาที่ต้องหาบ้านเช่าให้ได้มีอยู่จำกัด
จึงทำให้เราอาจจะมีตัวเลือกไม่ได้มากนัก
พี่อุ้มจึงขอสรุปจากประสบการณ์ปล่อยเช่ามานานหลายปี
ขมวดมาให้ 7 ข้อนี้นะคะ
1. กำหนดงบประมาณ ให้เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ๆ เลย เพราะค่าเช่าที่ต้องจ่ายออกไปเป็นค่าใช้จ่ายล้วน ๆ บางคนที่ไม่สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้ ยิ่งต้องคิดหนัก แต่ให้สรุปไว้เลยนะคะว่าจะกันงบประมาณจ่ายค่าเช่าบ้านกี่บาท ให้มีเรทราคาเป็นช่วง เช่น ไม่เกิน 10,000 บาท ไม่เกิน 20,000 บาท หรือ 8,000-12,000 บาท/เดือน แบบนี้ค่ะ
2. กำหนดโซน ทำเล ของบ้านที่เราจะเช่า สิ่งนี้เป็นตัวกำหนดการเดินทางแฝงมาด้วยค่าใช้จ่ายเพิ่มคือค่ารถ ค่าน้ำมัน ดังนั้นต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ใกล้ที่ทำงาน ใกล้โรงเรียนลูก ใกล้ตลาด ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก
3. เลือกแบบบ้านที่จะเช่าให้เหมาะกับจำนวนคนที่จะย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกันในบ้านเช่า เช่น ถ้าอยู่คนเดียวหรือสองคน คอนโด ทาวน์โฮม น่าจะเหมาะกว่า ถ้าหากอยู่หลายคน 3-6 คน ควรเลือกบ้านเดี่ยว จะชั้นเดียวหรือสองชั้นแล้วแต่เราเลือกให้เหมาะสม
4. เลือกฟังก์ชั่นการใช้สอย เช่น จำนวนห้องที่จะใช้มีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ มีที่จอดรถได้กี่คัน มีห้องครัว มีสวนหน้าบ้าน ฟังก์ชั่นต่าง ๆ เหล่านี้ปรับได้กับความต้องการของผู้เช่ากับสมาชิกที่เช่าร่วมกัน ยิ่งถ้ามีสัตว์เลี้ยงด้วยแล้ว ต้องมีพื้นที่ให้น้องอยู่ร่วมกันด้วยค่ะ
5. สิ่งอำนวยความสะดวก ประเภทเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มีหรือไม่ พื้นฐานอย่างน้อยต้องมีแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น โซฟา โต๊ะอาหาร และเครื่องนอนอย่างน้อย 1 ห้อง เพราะปกติ ผู้เช่าที่ย้ายมาจากที่อื่นเพื่อทำการเช่าบ้านจะไม่ได้ขนเฟอร์นิเจอร์มาด้วยอยู่แล้ว แต่ก็มีบางคนที่มีเฟอร์นิเจอร์เป็นของตัวเองบางส่วน แล้วแต่กรณีไป
6. บ้านที่เช่าเป็นบ้านในโครงการหรือนอกโครงการจัดสรร ถ้าเป็นบ้านในโครงการข้อดีคือมีความปลอดภัยเป็นหลัก มีสวนส่วนกลาง มีเพื่อนบ้านพอให้อุ่นใจ ส่วนบ้านนอกโครงการมีความเป็นอิสระ มีความเป็นส่วนตัวกว่า
7. เจ้าของบ้านผู้ให้เช่า ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจของผู้เช่าบ้านด้วย ว่าควรเช่าบ้านหลังนี้หรือไม่ เช่น ผู้ให้เช่าบ้านมีข้อกำหนดกฎเกณฑ์สูง จู้จี้จุกจิก หรือมีข้อห้ามมากเกินกว่าที่ผู้เช่าจะรับได้ การทำสัญญา ครอบคลุมโปร่งใส การชำระเงินค่าเช่า การคืนเงินประกันเมื่อจบสัญญา สถานะะของบ้านที่ปล่อยเช่าเป็นแบบปลอดภาระ หรือใกล้จะถูกยึด และอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ผู้เช่าต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่
ทั้ง 7 ข้อ นี้ผู้เช่าบางท่านอาจจะคิดว่ายุ่งยากหรือเยอะเกินไปหรือเปล่านะ อย่างไรก็ตามพี่อุ้มก็มีทางออกที่จะจะร่นเวลาการหาบ้านเช่าให้เร็วขึ้น และตรงใจเรามากขึ้น โดยการที่ผู้เช่าเลือกใช้บริการของนายหน้าตัวแทนที่ไว้วางใจได้ (ย้ำ!! ที่ไว้วางใจได้) เพราะนายหน้าตัวแทนจะเป็นผู้รับออเดอร์ความต้องการของเราไปยังเจ้าของบ้านผู้ให้เช่า สกรีนทุกอย่างแทนเรา
และคอยประสานงานให้การเช่าบ้านของเราเป็นเรื่องง่าย อุ่นใจ และทุกอย่างราบรื่นด้วยดีค่ะ …